หลังจากปีใหม่ 2020 ที่เพิ่งผ่านมาไม่นานก็เข้าสู่เดือนที่ 3 แล้ว ในเดือนมีนาคมนี้มีวันสำคัญของทั่วโลก
คือทุกวันที่ 8 มีนาคมจะเป็นวันสตรีสากล ที่จัดขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองความมีสิทธิของผู้หญิงในสังคม ความสำเร็จทางเศรษฐกิจการเมืองและสังคมของผู้หญิงทั่วไป หากพูดชื่อเหล่าสตรีดังที่ขับเคลื่อนโลก ก็จะคุ้นๆชื่อกันได้แก่ แม่ชีเทเรซ่า , เจ้าหญิงไดอาน่า แห่งอังกฤษ นางออง ซาน ซูจี ที่พยายามเรียกร้องประชาธิปไตยให้แก่พม่า มาพูดถึงบ้านเราในช่วงเดือนมีนานี้บ้าง ประเทศไทยเป็นประเทศที่ร้อนทั้งปีไม่ว่าฤดูไหน แต่ช่วงหน้าร้อนเดือนเมษาที่กำลังจะถึงนี้อุณภูมิจะขึ้นไปสูงกว่าปกติมาก
โดยเฉพาะกรุงเทพที่บางวันอาจจะร้อนถึง 40 องศา ด้วยอุณภูมิสูงขนาดนี้หลายๆ คนเลือกที่จะไม่ออกไปไหนหรือมีกิจกรรมน้อยลง โดยเฉพาะการออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อน
เป็นอะไรที่เหนื่อยเร็วขึ้นแบบทวีคูณเลยทีเดียว
วันนี้มีคำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายในช่วงหน้าร้อนมาฝากผู้อ่านทุกท่านกันนะครับ
อุณภูมิความร้อนที่สูงขึ้น หรือออกกำลังกายในช่วงแดดร้อนๆ มีความเสี่ยงอะไรกับสุขภาพของเราบ้าง
1.ร่างกายสูญเสียน้ำ
อันดับแรกที่สำคัญมากๆ กับร่างกายคนเรามากที่สุดคือ น้ำ เพราะร่างกายมนุษย์ประกอบไปด้วยน้ำมากถึง 70% ถ้าระดับน้ำในร่างกายเปลี่ยนแปลงไปเพียง 5-10% เราจะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ไม่ว่าจะอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น ผิวแห้ง ถ้าคุณออกกำลังกายในช่วงที่ร้อน ต่อให้ไม่โดนแดดโดยตรงขอให้คุณทำตามคำแนะนำนี้
– จิบน้ำระหว่างออกกำลังกาย
(แนะนำให้จิบ 1-2 อึกเล็กๆ) ทุกๆ 10-15 นาที เพื่อลดอุณภูมิร่างกายและการสูญเสียน้ำทางผิวหนัง หรือเหงื่อออกนั่นเอง
– พกผ้าขนหนูผืนเล็กและขวดน้ำหรือแก้วน้ำที่เก็บความเย็นได้
เพื่อใช้ดื่ม หรือใช้น้ำที่แช่เย็นเทใส่ผ้าขนหนูและลูบตามตัวเพื่อลดอุณภูมิความร้อนที่ระบายออกทางผิวหนัง
2.แสบผิวหนังและผิวคล้ำเสียได้ง่าย
การออกกำลังกายในช่วงที่ร้อนหรือมีแดด ไม่ว่าจะโดนแดดหรือไม่โดนก็แนะนำให้ทาครีมกันแดดไว้
เพราะรังสี UV นั้นแรงมากและมีอยู่แทบทุกที่ เพราะฉะนั้นก่อนจะออกกำลังกายหรือไปทำกิจกรรมข้างนอกบ้าน แนะนำให้ทาครีมกันแดดและพกครีมกันแดดไว้เสมอ
3.อ่อนเพลียจากความร้อนแดด
อาการเพลียแดดเกิดจากการอยู่ในสภาพอากาศร้อน หรืออยู่ในที่ปิดที่ไม่ค่อยถ่ายเทนานๆ ร่างกายจะเริ่มมีอุณภูมิสูงขึ้นแต่ไม่เกิน 40 องศา ทำให้เกิดความอ่อนเพลีย กระหายน้ำ วูบๆ เหมือนจะเป็นลม ถ้าคุณออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อน ต้องเตรียมเสื้อผ้ากีฬาที่เบา ระบายความร้อนและเหงื่อได้ดี และมีขวดน้ำ กระติกน้ำ พกไว้เสมอเพื่อดื่มน้ำทดแทนเข้าไป ถ้าหากมีผ้าขนหนูให้ชุบน้ำเย็นแล้วเช็ดตามร่างกาย
4.ลมแดด
อาการลมแดด หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า ฮีท สโตรค (Heat Stroke) เกิดจากการที่อยู่ในสภาพอากาศร้อนมากเป็นเวลานานๆ ส่งผลให้อุณภูมิในร่างกายสูงทะลุ 40 องศา อาการที่บ่งบอกว่าจะเกิดภาวะ ลมแดด คือ หายใจหอบสั้นๆ ถี่มากๆ ตัวร้อน เวียนหัว ตาเริ่มพร่ามัว เริ่มหมดแรงควบคุมร่างกายไม่ได้ การป้องกันไม่ให้เกิดโรคลมแดดที่ดีที่สุด คือ ดื่มน้ำตลอดการทำกิจกรรมที่มีสภาพอากาศร้อน ใช้ผ้าชุบน้ำคอยเช็ดตามร่างกายที่รู้สึกร้อน ลดความหนักของกิจกรรมนั้นๆ ลงทันทีและรีบดื่มน้ำ หากอาการรุนแรงให้รีบส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด
ในช่วงเดือนนี้จนถึงเดือนเมษาหน้าร้อนนี้เรายังคงอยู่กับสถานการณ์ไวรัสโครโรน่า (Covid-19) ที่ยังแพร่ระบาดทั่วโลก ขอให้ทุกคนรักษาความสะอาดของร่างกายเสมอๆ จากการทำกิจกรรมโดยเฉพาะการออกกำลังกายตามสถานที่ต่างๆ หรือในฟิตเนส ต้องรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ หมั่นล้างมื้อให้สะอาด ล้างให้นานและบ่อยกว่าปกติหลังหยิบจับของต่างๆ ใส่หน้ากากอนามัยเสมอและพยายามเลี่ยงเข้าไปในพื้นที่ ที่คนแออัด ถ้าจำเป็นจริงๆ ขอให้พกเจลล้างมือหรือแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อติดตัวไปด้วย งดการเดินทางท่องเที่ยวไปยังพื้นที่เสี่ยงต่างๆ ได้จะดีที่สุด จนกว่าจะหาทางรักษาและควบคุมได้
ในระหว่างช่วงที่กำลังหาทางรักษาควบคุมไวรัสโคโรน่าก็ขอให้ผู้อ่านรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เริ่มง่ายๆ แค่ 15-20 นาที ก่อนก็ได้และพยายามเลือกกินอาหารที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้มีภูมิต้านทานสารอนุมูลอิสระสูง เช่น ข้าวไรซ์เบอร์รี่ หรือ ข้าวซูเปอร์ไรซ์หงษ์ทองไลฟ์ ที่มีส่วนผสม ข้าวก่ำ ข้าวหอมนิล ข้าวไรซ์เบอร์รี่
และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าข้าวกล้องทั่วไป 6 เท่า นุ่มและทานง่ายเป็นตัวเลือกให้คนที่รักสุขภาพและความแข็งแรงของร่างกาย